การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เดินทางเข้าสู่ช่วงกลางฤดูกาลที่ทุกทีมเริ่มปรับจังหวะและแสดงศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ แต่ละแต้มในตอนนี้ล้วนมีความหมาย ไม่ว่าจะเป็นการไล่ล่าแชมป์ การแย่งพื้นที่ยุโรป หรือการหนีตกชั้น ทุกเกมจึงเต็มไปด้วยแรงกดดันและความเข้มข้น
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กับความมุ่งมั่นสู่แชมป์อีกครั้ง
ภายใต้การนำของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงเป็นทีมที่มีระบบการเล่นที่แน่นอนและยากต่อการรับมือ เกมรุกของพวกเขานำโดยเออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ ที่ยังคงรักษามาตรฐานการทำประตูได้ยอดเยี่ยม การกลับมาของเควิน เดอ บรอยน์ ทำให้แดนกลางของทีมกลับมามีความสร้างสรรค์มากขึ้น จุดแข็งของซิตี้คือการครองบอลและการเพรสซิ่งที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้พวกเขายังเป็นทีมเต็งลุ้นแชมป์อย่างแท้จริง
ลิเวอร์พูล กับพลังแห่งทีมเวิร์กที่กลับมา
ลิเวอร์พูลภายใต้การคุมทีมของเจอร์เก้น คล็อปป์ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในฤดูกาลนี้ เกมรุกที่รวดเร็วและการทำงานเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมทำให้พวกเขาเก็บแต้มได้ต่อเนื่อง ซาลาห์ ยังคงเป็นตัวความหวังหลักของทีม ขณะที่ดาร์วิน นูนเญซ และหลุยส์ ดิอาซ เริ่มเล่นเข้าขากันมากขึ้น ทำให้แนวรุกของหงส์แดงดูอันตรายกว่าเดิม
อาร์เซน่อล กับความแน่นอนที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
อาร์เซน่อลยังคงรักษามาตรฐานการเล่นได้อย่างยอดเยี่ยม มิเกล อาร์เตต้า วางระบบทีมได้ลงตัวมากขึ้นโดยเฉพาะในแดนกลางที่มีดีแคลน ไรซ์ เป็นผู้นำ ส่วนแนวรุกยังคงฝากความหวังไว้กับบูคาโย่ ซาก้า และกาเบรียล มาร์ติเนลลี่ ที่มีความเร็วและความเฉียบคม จุดแข็งของทีมคือความยืดหยุ่นทางแท็กติกที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ของเกม
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กับความพยายามคืนฟอร์มเก่า
ปีศาจแดงยังคงอยู่ในช่วงปรับจูนฟอร์มการเล่นให้กลับมาเข้าที่ การกลับมาของนักเตะหลักบางรายช่วยให้ทีมดูมีสมดุลมากขึ้น บรูโน่ แฟร์นันด์ส ยังคงเป็นจอมทัพที่คอยสร้างสรรค์เกม ขณะที่มาร์คัส แรชฟอร์ด ต้องเรียกฟอร์มเก่งกลับมาเพื่อช่วยทีมลุ้นพื้นที่ยุโรป การเก็บชัยชนะในเกมใหญ่จะเป็นกุญแจสำคัญในการเรียกความมั่นใจกลับคืน
ท็อตแน่ม ฮ็อตสเปอร์ กับสไตล์การเล่นที่ดูสนุกและมีพลัง
ภายใต้การคุมทีมของแองเจ พอสเตโคกลู สเปอร์สกลายเป็นทีมที่มีเอกลักษณ์ในเกมรุก ซน ฮึง มิน และเจมส์ แมดดิสัน ยังคงเป็นกำลังสำคัญในการสร้างสรรค์เกมและทำประตู สไตล์ฟุตบอลที่เปิดเกมบุกใส่ทุกทีมทำให้พวกเขากลายเป็นทีมที่น่าจับตามองในทุกนัด ถึงแม้จะมีข้อผิดพลาดในแนวรับบ้าง แต่ความกล้าและความดุดันทำให้สเปอร์สเป็นคู่แข่งที่ใครก็ประมาทไม่ได้
ทีมกลางตารางกับความหวังในการขยับอันดับ
แอสตัน วิลล่า, ไบรท์ตัน และนิวคาสเซิล ต่างยังคงมีโอกาสลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรป วิลล่าภายใต้การคุมทีมของอูไน เอเมรี ยังคงเน้นเกมรุกที่เฉียบคมและเป็นระบบ ขณะที่ไบรท์ตันยังคงเล่นฟุตบอลบุกที่สร้างความตื่นเต้นให้แฟนบอล ส่วนทีมสาลิกาดงยังคงใช้พลังแฟนบอลในบ้านเป็นแรงผลักดันสำคัญในการเก็บแต้ม
ศึกหนีตกชั้นที่ไม่มีใครยอมใคร
ท้ายตารางยังคงเต็มไปด้วยความเข้มข้น ลูตัน ทาวน์, เบิร์นลี่ย์ และเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ต่างต้องต่อสู้ในทุกนัดเพื่ออยู่รอดในลีกสูงสุด การเก็บแต้มจากเกมเหย้ากลายเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะทุกแต้มสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาของทีมได้อย่างสิ้นเชิง
สรุปก่อนเกมสุดสัปดาห์เริ่มต้น
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยังคงเป็นลีกที่เต็มไปด้วยคุณภาพและความตื่นเต้นในทุกนาที แต่ละทีมต่างมีแรงจูงใจและเป้าหมายที่แตกต่างกัน การแข่งขันในสัปดาห์นี้จะเป็นอีกหนึ่งบททดสอบที่สำคัญสำหรับหลายทีม และแฟนบอลทั่วโลกต่างรอชมว่าใครจะสามารถคว้าชัยและยืนหยัดอยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดบนตารางคะแนน